วิธีการเลือกซื้อการ์ดจอ

|

10 อย่างที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อการ์ดจอ
เรื่องด่วนๆอย่างการเลือกการ์ดจอให้ถูกใจสักการ์ด บางครั้งก็ทำเราสับสนวุ่นวายได้เหมือนกัน นอกจากว่าคุณจะเป็นผู้ที่คร่ำหวอดเรื่องของเทคโนโลยีของการ์ดจออย่างชนิดตัวยง แต่ว่า ใครจะมานั่งตามให้ปวดหัววุ่นวายจริงไหมครับ ทั้งนี้เพราะว่าการ์ดจอนั้นมีการอัพเกรดแบบดกชนิดที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียวหล่ะครับ นั่นหมายถึงว่ามีการ์ดจอมากมายให้คุณเลือก และแน่นอน หากคุณเลือกไม่ดีละก็ คุณได้โดนฟันเลือดสาดแน่นอนครับ ผมวิธีการเลือกการ์ดจอให้คุณ 10 ข้อ ไว้ตัดสินใจเลือกการ์ดจอตัวใหม่ของคุณ สำหรับเกมใหม่ที่คุณอยากเล่นต่อไปไงครับ
1. หน่วยความจำ มันไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนี่คือเรื่องจริง ว่าการ์ดจอของเราตอนนี้มาพร้อมกับหน่วยความจำจำนวนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 64 128 256 หรือแม้แต่ 512 หากรุ่นสูงมากๆก็เล่นกันเป็นกิ๊กเลยหล่ะครับซึ่งหน่วยความจำเหล่านี้จะช่วยเรามากในเรื่องของความละเอียด ซึ่งการ์ดจอรุ่นสูงๆนั้นมักจะมาพร้อมกับหน่วยความจำจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะว่า หากหน่วยความจำไม่พอละก็ GPU ของคุณก็จะเป็นง่อยทีเดียวหล่ะครับ หากต้องการการประมวลผลจำนวนมาก ซึ่งผู้ผลิตการ์ดจอทราบดีว่าผู้ที่เลือกซื้อการ์ดจอนั้นมักจะมองหาการ์ดที่มีหน่วยความจำสูงๆเพื่อเปรียบเทียบการ์ด โดยหากเราสังเกตดีๆในท้องตลาดของเรา ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ทิพย์เอง การ์ดรุ่นต่ำๆนั้นให้หน่วยความจำมา 256 หรือไม่ก็ 512 MB กันเลยทีเดียว เพื่อที่จะลดความเร็วของหน่วยประมวลผลลง โดยอาจจะดูดีเมื่อคุณมองไปที่เสปคของการ์ด โอ ให้หน่วยความจำมาตั้งเยอะแยะ แต่ประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันจะปรากฏเมือคุณเริ่มเล่นเกมนั่นแหละครับ
2. ทั้งหมดอยู่ที่ GPUหน่วยความจำสำคัญก็จริง แต่หัวใจของการ์ดจริงๆนั้นจะอยู่ที่หน่วยประมวลผลกราฟิกครับ เมื่อคุณค้นหาชื่อของการ์ดจอนั้น สิ่งสำคัญสิ่งแรกให้คุณดูไปที่ชนิดของ GPU ว่ามาจาก NVIDIA หรือ ATI หรือเปล่า แต่มันก็ไม่เพียงพอหรอกหากเราจะดูแค่ว่ามากจาก NVIDIA Geforce หรือ ATI Radeon เท่านั้นคุณจำเป็นต้องดูที่รุ่นของมันด้วยซึ่งรุ่นนี่แหละครับจะบอกเราได้ว่าการ์ดตัวนี้จะมีราคาเท่าไหร่ ตั้งแต่ 2000 กว่าบาท จนถึง 20000 กว่าบาทเลยทีเดียวแม้ว่าจะมาจากชื่อ Geforce หรือ Radeon เหมือนๆกัน ซึ่งรุ่นสูงกว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากรุ่นแล้วก็ยังมีรหัสต่อท้าย อย่างเช่น GT, GS, GTX, XT และ XTX ซึ่งตัวหนังสือเหล่านี้จะเป็นตัวบอกถึงรุ่นของ Shader และความเร็วในการทำงาน
3.ไปป์ไลน์ เชดเดอร์ และความเร็วในการประมวลผลคุณอาจจะต้องดูในความเร็วหน่วยความจำของ GPU และจำนวนพิกเซลไปป์ไลน์ ซึ่งจำนวนไปป์ไลน์ที่มากกว่า แสดงได้ถึงการส่งผ่านข้อมูลที่มากกว่าในการทำงานแต่ละครั้ง เราจะเห็นได้ว่าการ์ดจอในรุ่นต่ำๆนั้นจะมีพิกเซลล์ไปป์ไลน์จำนวน 4 ไปป์ไลน์ รุ่นกลางนั้นจะมี 8-12 ไปป์ไลน์ และรุ่นสูงๆนั้นจะมีตั้งแต่ 16 ไปป์ไลน์ขึ้นไป และแน่นอนความเร็วก็มีผล แต่หากเปรียบเทียบระหว่างไปป์ไลน์กับความเร็วของคล๊อกนั้น ให้คุณเลือกไปป์ไลน์เป็นหลักนะครับ เช่นหากคุณมีการ์ดชนิด 400 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งมี 8 ไปป์ไลน์ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการ์ดที่มี 4 ไปป์ไลน์ที่ความเร็ว 500 เมกกะเฮิร์ต
4. วินโดวส์วิสต้า และ Direct X 10 ไมโครซอฟท์มีแผนการที่จะวางจำหน่ายระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด Windows Vista ในต้นปี 2007 ที่จะถึงนี้ ระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะมีฟีเจอร์หลักตัวหนึ่งคือ DirectX 10 ซึ่งรวมเอาฟังก์ชั่นใหม่ๆของเกมยุคหน้า แม้ว่า Vista ยังคงทำงานกับการ์ด DirectX 9 ในตอนนี้ได้ แต่คุณคงต้องการการ์ดที่สามารถรัน DirectX 10 ได้เพื่อให้มีประสิธิภาพสูงสุดผมหวังว่า NVIDIA และ ATI เองนั้นจะออกการ์ดของตนเองที่สนับสนุน DX10 ในช่วงปลายปีหลังทีจะถึงนี้ แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะครับว่าการ์ดที่คุณซื้อในตอนนี้นั้นจะไม่สามารถที่จะเล่นเกมรุ่นใหม่ได้ และมีปัญหากับความเข้ากันได้ กว่าที่ระบบทั้งหมดจะปรับตัวให้เข้าที่เข้าทาง นักพัฒนาทำเกมสำหรับ DX10 ออกมานั้นก็กินเวลา 2-3 ปีโดยประมาณอยู่แล้ว ดังนั้นเกมในตอนนี้และอีกสองสามปีข้างหน้านั้นจะยังคงสามารถทีจะทำงานกับการ์ดจอของคุณได้อยู่ต่อไป ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้เกมใหม่ๆอย่าง Halo 3 และ Shadowrun นั้นก็สนับสนุนทั้ง DX9 และ DX10 พร้อมๆกัน และยังคงเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยไปสักพักหลังจากที่วิสต้าออกมาแล้วก็ตาม
5 คุณซื้อการ์ดได้ทุกเวลาเลยจากการที่ NVIDIA และ ATI เป็นคู่กัดกันในด้านของการทำการ์ดจอมาตลอดนนั้นทำให้การ์ดจอนั้นออกมาในตลาดบ่อยมาก โดยปกติมักจะออกรุ่นใหม่มาราวๆทุก 12-18 ดือนซึ่งก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของการ์ดทั้งความเร็วคล็อก และเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆเข้าไป และด้วยการที่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆอย่างเช่น H.264 แบบไฮเดฟฟินิชั่นและ Shader Model แบบ Advance ออกมา เราอาจจะต้องรออย่างน้อย 2 ปีถึงจะให้เทคโนโลยีเหล่านี้แพร่หลายคุณจึงมีเวลาดีตลอดเวลาในการที่จะเลือกซื้อการ์ดจอ โดยไม่ต้องรอ ราคาของการ์ดจอนั้นจะตกเร็วมากหากมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมา ซึ่งคุณสามารถที่จะใช้การ์ดจอของคุณในการเล่นเกมโปรดของคุณได้ต่อไปอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ 2-3 ปีเลยหล่ะครับ
6.ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อซื้อการ์ดจอการ์ดจอรุ่นใหม่ๆที่ออกมาตอนนี้นั้นในรุ่นสูงๆจะมีราคาราวหมื่นถึงสองหมื่นบาท โดยคุณอาจจะหาการ์ดในรุ่นก่อนหน้าที่เป็นรุ่นสูงของมันซื่งสนับสนุนเทคโนโลยีที่เกมในปัจจุบันใช้กันอยู่ได้ในราคา 6000-10000 บาทให้คุณลองตรวจสอบไปป์ไลน์และความเร็วของคล็อกเพื่อเปรียบเทียบการ์ดจากเทคโนโลยีในยุคที่ต่างกัน โดยคุณจะเห็นว่าบางครั้งมันค่อนข้างเหมือนกันเลยทีเดียว
7. คุณมีพาวเวอร์พอไหมให้ลองตรวจสอบเคสของคุณว่ามีตัวจ่ายไฟหรือพาวเวอร์ซัพไพลในการจ่ายไฟให้การ์ดจอของคุณเพียงพอหรือไม่ เพราะว่าการ์ดจอรุ่นใหม่เดี่ยวนี้เป็นตัวดูดไฟอย่างดีทีเดียวครับ ผู้ผลิตมักจะบอกความต้องการไฟไว้ข้างกล่องของตัวการ์ดที่คุณจะซื้อมา การ์ดจอรุ่นสูงๆตอนนี้มักต้องการพาวเวอร์ซัพพลาย 400 วัตต หรือ 450 วัตต์ หากเป็นการ์ดอบบคู่เช่น SLI หรือ CrossFire นั้นอาจจะต้องการพาวเวอร์ซัพพลายมากถึง 550 วัตต์เลยทีเดียวครับ
8.AGP หรือ PCI Expressจากการแนะนำตัวของ PCI Express เมื่อสองปีที่แล้วนั้น มันได้เข้ามาแทนอินเทอร์เฟสแบบ AGP โดยสมบูรณ์แบบ โดยมีแบนวิธมากกว่า AGP ถึง 2-4 เท่าและการ์ดจอรุ่นใหม่โดยมากจะมาแบบ PCI Express ทั้งนั้น แม้ว่าการ์ดบางรุ่นจะทำมาสำหรับ AGP เพื่อคนที่ใช้อยู่แล้วจะอัพเกรดเช่น GeForce 7800 GS แต่หากซื้อการ์ดจอใหม่เราแนะนำ PCI Express ก่อนนะครับ
9. SLI และ Crossfireคุณอาจจะต้องการการ์ดคู่ในการทำงานหรือเล่นเกม เมื่อไหร่ที่คุณอัพเกรดการ์ดเป็นการ์ดคู่ละก็ อย่าลืมมองหา SLI และ CrossFire ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพที่ได้นั้นจะต้องมากกว่าการ์ดเดี่ยวอย่างแน่นอน โดยอาจจะต้องการเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเฉพาะ และพาวเวอร์ซัพพลายที่เพียงพอNVIDIA และ ATI แข่งกันมากเรื่องของการ์ดคู่ โดย NVIDIA นั้นจะมี SLI (Scalable Link Interface) เป็นหัวหอก และ ATI จะมี CrossFire การ์ดที่คุณเลือกมาทั้ง SLI และ CrossFire นั้นจะต้องเป็นการที่ระบุว่าสามารถใช้ SLI หรือ CrossFire ได้ รวมถึงเมนบอร์ดของคุณต้องสนับสนุนด้วย
10 ซื้อการ์ดจอต้องได้การ์ดจอเลิกคิดถึงระบบประมวลผลกราฟิกแบบออนบอร์ดไปได้เลยครับ หากคุณเลือกซื้อทางอินเตอร์เน็ต หรือมองหาระบบดีๆเพื่อมาเล่นเกมโปรดหรือทำงานกราฟิกแบบหนักหน่วงละก็ ปิดบราวเซอร์ไปได้เลยหากเจอคำว่า Integrated Graphic หรือ Graphic On Board เพราะหากคุณเลือกแบบนี้มาละก็ มันก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพวก Word หรือเล่นอินเตอร์เน็ตเท่านั้นหล่ะครับ และหากคุณคิดจะเล่นเกมแล้วละก็ มันก็เล่นได้เพียงความละเอียด 800 x 600 ที่ 15 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้นเอง

ที่มา : http://www.monavista.com/news/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

©2009 เทคนิคคอมพิวเตอร์ | Template Blue by:TNB